เทศบาลปฏิบัติหน้าที่ทั่วไปในการจัดหาประโยชน์จากตลาดสด ไม่ใช่การใช้อำนาจทางปกครอง (คำวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาลที่ 42/2567)

แม้เทศบาลตําบล ร. จําเลยที่ 1 จะมีฐานะเป็นราชการส่วนท้องถิ่น ตามมาตรา 70 (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองพ.ศ. 2542 โดยมีหน้าที่ตามมาตรา 50 วรรคหนึ่ง (3) และมาตรา 51 (3) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 

แต่เมื่อพิจารณาการกระทําที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า การที่จําเลยที่ 2 เป็นผู้ชนะการประมูลห้องสุขา แจ้งให้โจทก์รื้อถอนแผงลอยและจะถือเอาพื้นที่ที่โจทก์ได้รับสิทธิมาโดยชอบมาเป็นของตน และการที่จําเลยที่ 1 มีคําสั่งให้โจทก์รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ขนย้ายทรัพย์สิน และบริวารออกจากบริเวณหน้าอาคารห้องน้ำตลาดสดของจําเลยที่ 1 เพื่อจะนําพื้นที่ของโจทก์ไปเอื้อประโยชน์ให้แก่จําเลยที่ 2 เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ ขอให้ศาลมีคําพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิใช้พื้นที่แผงลอยซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าห้องสุขาตลาดสดเทศบาลตําบล ร. ดีกว่าจําเลยที่ 2 โดยให้จําเลยที่ 1 ยุติหรือเพิกถอนคําสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากพื้นที่ของโจทก์ 

จะเห็นได้ว่า การกระทําของจําเลยที่ 1 ที่มีหนังสือให้โจทก์รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ขนย้ายทรัพย์สิน และบริวารออกจากพื้นที่โดยอ้างสัญญาเช่าระหว่างจําเลยที่ 1 กับจําเลยที่ 2 นั้น เป็นเพียงการกระทําในฐานะคู่สัญญาที่จัดให้จําเลยที่ 2 ได้เข้าใช้พื้นที่ตามที่ได้ทําสัญญาเช่ากับจําเลยที่ 1 และเป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่ทั่วไปในการดําเนินการจัดหาประโยชน์จากตลาดสดเทศบาลตําบล ร. ซึ่งเป็นทรัพย์สินของตนเช่นเดียวกับเอกชนผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินที่พึงต้องกระทําการใด ๆ เพื่อใช้และรักษาประโยชน์ในทรัพย์สินของตนเท่านั้น

หนังสือของจําเลยที่ 1 ดังกล่าว จึงมิใช่การใช้อํานาจทางปกครองตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่จะมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ อันจะถือเป็นคําสั่งทางปกครองตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

และเมื่อเหตุพิพาทตามคําฟ้องระหว่างโจทก์และจําเลยที่ 1 ซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครอง มิได้เกิดจากการใช้อํานาจทางปกครองตามกฎหมายหรือการดําเนินกิจการทางปกครองของจําเลยที่ 1 คดีจึงไม่มีลักษณะเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองกระทําการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่จะอยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ส่วนข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจําเลยที่ 2 ก็เป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนด้วยกัน จึงเป็นคดีพิพาททางแพ่งที่อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

การส่งเด็กเข้าเรียนตามกฎหมาย

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ สารบรรณ (ชุดที่ 3)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542