เหตุออกหมายจับ-หมายค้น ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483
เหตุออกหมายจับ
1. เมื่อศาลรับคำฟ้องคดีล้มละลายแล้ว ลูกหนี้ได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด (มาตรา 16) ดังต่อไปนี้
(1) ออกไป กำลังจะออกไป ได้ออกไปก่อนแล้วและคงอยู่นอกเขตอำนาจศาล โดยเจตนาที่จะป้องกันหรือประวิงมิให้เจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้
(2) ปกปิด ซุกซ่อน โอน ขาย จำหน่าย หรือยักย้ายทรัพย์สิน ดวงตรา สมุดบัญชี หรือเอกสาร ให้พ้นอำนาจศาล หรือกำลังจะกระทำการดังกล่าว
(3) กระทำหรือกำลังจะกระทำการฉ้อโกงเจ้าหนี้ หรือกระทำหรือกำลังจะกระทำความผิดซึ่งมีโทษตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483
2. เมื่อศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายแล้ว ลูกหนี้ได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด (มาตรา 66) ดังต่อไปนี้
(1) ออกไป กำลังจะออกไป ได้ออกไปก่อนแล้วและคงอยู่นอกเขตอำนาจศาล โดยเจตนาที่จะหลีกเลี่ยง ประวิงหรือกระทำให้ขัดข้องแก่กระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย
(2) กระทำหรือกำลังจะกระทำการฉ้อโกงเจ้าหนี้ หรือกระทำหรือกำลังจะกระทำความผิดซึ่งมีโทษตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483
3. เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว ผู้ใดจงใจขัดขืนหมายเรียกหรือคำสั่งที่ศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกมาไต่สวน/สอบสวนเกี่ยวกับกิจการหรือทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือสั่งให้ส่งเอกสารหรือวัตถุพยานซึ่งอยู่ในความยึดถือของตน อันเกี่ยวกับกิจการหรือทรัพย์สินของลูกหนี้ (มาตรา 117)
4. เพื่อประโยชน์ในการทำแผนและการบริหารแผน ผู้ใดจงใจขัดขืนหมายเรียกหรือคำสั่งศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ที่ให้มาสอบถาม/ไต่สวน/สอบสวนเกี่ยวกับกิจการหรือทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือขอให้ส่งเอกสารหรือวัตถุพยานซึ่งอยู่ในความยึดถือของตนอันเกี่ยวกับกิจการหรือทรัพย์สินของลูกหนี้ (มาตรา 90/37)
เหตุออกหมายค้น
เมื่อศาลเห็นควรเชื่อได้ว่ามีทรัพย์สินของลูกหนี้ซุกซ่อนอยู่ในเรือนโรง เคหสถาน หรือสถานที่อื่นอันมิใช่เป็นของลูกหนี้ ศาลมีอำนาจออกหมายค้นได้ (มาตรา 20)
ที่มา เว็บไซต์ศาลล้มละลายกลาง
1. เมื่อศาลรับคำฟ้องคดีล้มละลายแล้ว ลูกหนี้ได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด (มาตรา 16) ดังต่อไปนี้
(1) ออกไป กำลังจะออกไป ได้ออกไปก่อนแล้วและคงอยู่นอกเขตอำนาจศาล โดยเจตนาที่จะป้องกันหรือประวิงมิให้เจ้าหนี้ได้รับการชำระหนี้
(2) ปกปิด ซุกซ่อน โอน ขาย จำหน่าย หรือยักย้ายทรัพย์สิน ดวงตรา สมุดบัญชี หรือเอกสาร ให้พ้นอำนาจศาล หรือกำลังจะกระทำการดังกล่าว
(3) กระทำหรือกำลังจะกระทำการฉ้อโกงเจ้าหนี้ หรือกระทำหรือกำลังจะกระทำความผิดซึ่งมีโทษตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483
2. เมื่อศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายแล้ว ลูกหนี้ได้กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด (มาตรา 66) ดังต่อไปนี้
(1) ออกไป กำลังจะออกไป ได้ออกไปก่อนแล้วและคงอยู่นอกเขตอำนาจศาล โดยเจตนาที่จะหลีกเลี่ยง ประวิงหรือกระทำให้ขัดข้องแก่กระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย
(2) กระทำหรือกำลังจะกระทำการฉ้อโกงเจ้าหนี้ หรือกระทำหรือกำลังจะกระทำความผิดซึ่งมีโทษตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483
3. เมื่อศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้แล้ว ผู้ใดจงใจขัดขืนหมายเรียกหรือคำสั่งที่ศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกมาไต่สวน/สอบสวนเกี่ยวกับกิจการหรือทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือสั่งให้ส่งเอกสารหรือวัตถุพยานซึ่งอยู่ในความยึดถือของตน อันเกี่ยวกับกิจการหรือทรัพย์สินของลูกหนี้ (มาตรา 117)
4. เพื่อประโยชน์ในการทำแผนและการบริหารแผน ผู้ใดจงใจขัดขืนหมายเรียกหรือคำสั่งศาลหรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ที่ให้มาสอบถาม/ไต่สวน/สอบสวนเกี่ยวกับกิจการหรือทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือขอให้ส่งเอกสารหรือวัตถุพยานซึ่งอยู่ในความยึดถือของตนอันเกี่ยวกับกิจการหรือทรัพย์สินของลูกหนี้ (มาตรา 90/37)
เหตุออกหมายค้น
เมื่อศาลเห็นควรเชื่อได้ว่ามีทรัพย์สินของลูกหนี้ซุกซ่อนอยู่ในเรือนโรง เคหสถาน หรือสถานที่อื่นอันมิใช่เป็นของลูกหนี้ ศาลมีอำนาจออกหมายค้นได้ (มาตรา 20)
ที่มา เว็บไซต์ศาลล้มละลายกลาง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น