ผลของคำสนอง
คำสนอง ทำให้เกิดผล 5 ประการ
1. ก่อให้เกิดสัญญา หากคำสนองถูกต้องตรงกันกับคำเสนอทุกประการ โดยปราศจากข้อความเพิ่มเติม ข้อจำกัด หรือข้อแก้ไขอย่างอื่น ที่มีลักษณะเป็นการต่อรอง และอยู่ภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว สัญญาย่อมเกิดขึ้นทันที
2. ผลต่อการถอนคำสนอง
- หากคำสนองยังไปไม่ถึงผู้เสนอ ผู้สนองย่อมสามารถถอนคำสนองของตนได้ โดยบอกถอนคำสนองไปถึงก่อนหรือพร้อมกับคำสนองนั้น
- หากคำสนองไปถึงผู้เสนอแล้ว ผู้สนองไม่สามารถถอนได้อีกเลย เพราะถือว่าสัญญาเกิดขึ้นแล้ว
3. ผู้สนองแสดงเจตนาสนองแล้วตายหรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ เมื่อได้แสดงเจตนาทำคำสนองไปแล้ว แม้ต่อมาผู้สนองถึงแก่ความตายหรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ และผู้เสนอได้รู้ถึงความตายหรือการตกเป็นผู้ไร้ความสามารถก่อนที่คำสนองนั้นจะไปถึง ก็ไม่มีผลให้คำเสนอและคำสนองนั้นสิ้นผลไป
4. คำสนอง อาจกลายเป็นคำเสนอใหม่ได้
- กรณีคำสนองที่มาถึงล่วงเวลา แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 357 จะกำหนดให้คำเสนอต้องมีอันสิ้นไปและไม่ก่อให้เกิดสัญญาขึ้น แต่มาตรา 359 วรรคหนึ่ง ได้บัญญัติข้อยกเว้นไว้ให้ถือว่าคำสนองนั้นกลายเป็นคำเสนอใหม่ได้ ดังนั้น หากผู้เสนอเดิมพอใจในคำสนองที่กลายเป็นคำเสนอใหม่ไปแล้วนั้น และได้แสดงเจตนาตอบรับ ก็ย่อมก่อให้เกิดสัญญาได้เช่นกัน
- กรณีคำสนองที่มีการต่อรองโดยระบุข้อความเพิ่มเติม เพิ่มข้อจำกัด หรือมีการแก้ไขข้อตกลง ตามมาตรา 359 วรรคสอง กำหนดให้คำสนองที่มีลักษณะต่อรองถือเป็นคำบอกปัด ซึ่งมีผลให้คำเสนอมีผลสิ้นความผูกพันไปตามมาตรา 357 แต่ความตอนท้ายของมาตรา 359 วรรคสอง บัญญัติว่าคำสนองเช่นนั้น ให้มีผลเป็นคำเสนอใหม่ด้วยในตัว ดังนั้น หากผู้เสนอเดิมพอใจในคำสนองที่กลายเป็นคำเสนอใหม่ไปแล้วนั้น และได้แสดงเจตนายอมรับ ก็ย่อมก่อให้เกิดสัญญาได้
5. การฟ้องคดีได้หรือไม่ ต้องแยกพิจารณากันอีกส่วนหนึ่ง เมื่อคำสนองถูกต้องตรงกันกับคำเสนอแล้ว แม้จะทำให้เกิดสัญญาขึ้นแล้ว แต่การจะฟ้องร้องบังคับกันได้หรือไม่นั้น ต้องแยกพิจารณากันอีกส่วนหนึ่ง เช่น หากสัญญาประเภทใดมีกฎหมายกำหนดให้ต้องทำตามแบบที่กฎหมายกำหนด ก็จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายนั้นด้วย มิฉะนั้นย่อมเป็นสัญญาที่ไม่อาจฟ้องบังคับกันได้หรือตกเป็นโมฆะหรือโมฆียะ
ที่มา อาจารณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รวมคำบรรยาย ภาคหนึ่ง สมัยที่ 77 ปีการศึกษา 2567 เล่มที่ 10 วิชานิติกรรม-สัญญา หน้า 23-28
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น