บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์, 2025

แผนภูมิกระบวนพิจารณาคดีปกครอง

รูปภาพ
  ที่มา เว็บไซต์สำนักงานศาลปกครอง

การคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศที่ถูกยกเลิกเพื่อชำระหนี้ (ฎ.568/2548)

โจทก์มีคำขอบังคับให้จำเลยชำระหนี้เป็นเงินต่างประเทศ ซึ่งหากจำเลยจะชำระหนี้เป็นเงินไทยก็ได้ แต่การเปลี่ยนเงินต้องใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ สถานที่และเวลาใช้เงิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 196 วรรคสอง ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษากำหนดให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนใน วันฟ้อง เท่ากับการพิพากษานอกเหนือหรือเกินไปกว่าคำฟ้องจึงไม่ชอบ และเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน หนี้เงินต่างประเทศสกุลฟรังก์ฝรั่งเคสที่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยชำระแก่โจทก์ เป็นเงินตราของประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ในทวีปยุโรปที่ มีการจัดตั้งสหภาพยุโรป ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินที่ใช้ในประเทศดังกล่าว จึงเห็นสมควรกำหนดวิธีการคิดคำนวณมูลค่าเงินไว้เพื่อความสะดวกในการบังคับคดีด้วย หากในเวลาใช้เงินจริงนั้น เงินฟรังก์ฝรั่งเคสเป็นเงินตราชนิดที่ยกเลิกไม่ใช้กันแล้ว ให้จำเลยชำระหนี้ด้วยเงินสกุลที่ใช้แทน เงินฟรังก์ฝรั่งเคส ที่มีมูลค่าเท่ากับจำนวนหนี้ต้นเงินฟรังก์ฝรั่งเศสพร้อมดอกเบี้ย ดังกล่าวข้างต้น โดยคิดดอกเบี้ยถึงวันก่อนวันคำนวณเปลี่ยนจำนวนหนี้เงินฟรังก์ฝรั่งเศสเป็นเงินสกุลที่ใช้แทน ทั้งนี...

ทำอย่างไรเมื่อลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์

คดีล้มละลาย เมื่อลูกหนี้ถูกฟ้องคดี ศาลจะทำการสืบพยานหลักฐานให้ได้ความจริง และศาลจะมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพยเด็ดขาดลูกหนี้ ผลของคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด   เมื่อศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว ถือว่าเป็นการเริ่มต้นของคดีล้มละลาย ศาลจะยังไม่พิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลายในทันที ซึ่งในกรณีดังกล่าวนี้ลูกหนี้ที่รับราชการยังไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นข้าราชการ และยังคงรับราชการต่อไปจนกว่าศาลจะพิพากษาให้ล้มละลาย สิ่งที่ลูกหนี้ต้องปฏิบัติ : ติดต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์   -เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมีหมายเรียกหรือหมายนัดให้ไปพบเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์   -นำหมายนัดไปพบเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามกำหนดวันเวลาที่ระบุในหมายโดยเคร่งครัด   -นำบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้โดยมีรูปกำกับหรือสำเนาทะเบียนบ้านไปด้วยทุกครั้ง สิทธิและหน้าที่ของลูกหนี้   1. ต้องไปสาบานตัวและให้ถ้อยคำชี้แจงเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สิน พร้อมทำบัญชีแสดงกิจการและทรัพย์สิน   2. ต้องส่งมอบทรัพย์สิน บัญชี และดวงตราห้างฯ หรือบริษัท และเอกสารต่าง ๆ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพ...

ถาม-ตอบ การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย

คำถาม เมื่อศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจำเลย (ลูกหนี้) แล้ว เจ้าหนี้ทั้งหลายจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง คำตอบ   -ขอรับชำระหนี้กรณีปกติ ยื่นขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด   -ขอรับชำระหนี้กรณีพิเศษ ขอรับชำระหนี้ภายใน 2 เดือน นับจากวันที่อาจใช้สิทธิขอรับชำระหนี้ได้ คำถาม หนี้ที่อาจขอรับชำระหนี้ได้มีอะไรบ้าง คำตอบ   1. ต้องเป็นหนี้เงิน   2. มูลแห่งหนี้เกิดก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์   3. ไม่เข้าข้อยกเว้น       (1) หนี้ที่เกิดขึ้นโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายหรือศีลธรรมอันดี หรือหนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้       (2) หนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว แต่ไม่รวมถึงหนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้กระทำขึ้นเพื่อให้กิจการของลูกหนี้ดำเนินต่อไปได้ คำถาม ในการขอรับชำระหนี้ ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือไม่ คำตอบ เจ้าหนี้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการขอรับชำระหนี้ในอัตรา 200 บาท แต่หากเป็นการขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาหรือหนี้ไม...

ข้อตกลงเบี้ยปรับที่กำหนดเป็นจำนวนเงิน (ฎ.3301/2547)

โจทก์ชำระเงินจำนวน 30,000 บาท ให้แก่จำเลยในวันจอง และจำนวน 120,000 บาท ในวันทำสัญญาจะซื้อจะขายบ้านพร้อมที่ดิน ดังนั้น เงินจำนวน 150,000 บาท จึงเป็นทรัพย์สินที่โจทก์ได้ให้แก่จำเลยแล้วในวันทำสัญญา เพื่อให้จำเลยยึดไว้เป็นการชำระหนี้บางส่วนและเป็นประกันการที่จะปฏิบัติตามสัญญา จึงถือเป็นมัดจำ  ส่วนหลังจากวันทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว โจทก์ยังผ่อนชำระให้แก่จำเลยรวม 12 งวด เป็นเงิน 840,000 บาท ย่อมไม่อาจถือเป็นมัดจำ แต่เป็นเพียงการชำระราคาบ้านและที่ดินบางส่วน   ดังนั้น เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาและจำเลยบอกเลิกสัญญาแก่โจทก์แล้ว สัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าวจึงเป็นอันเลิกกัน จำเลยจึงมีสิทธิริบมัดจำ จำนวน 150,000 บาท ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 378 (2)  และเมื่อสัญญาจะซื้อจะขายเลิกกัน เงินที่โจทก์ชำระค่าบ้านและค่าที่ดินบางส่วนดังกล่าว ต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 391 การที่โจทก์และจำเลยตกลงกันว่า ถ้าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เมื่อจำเลยบอกเลิกสัญญาแล้วให้เงินที่โจทก์ชำระมาแล้วทั้งหมด ตกเป็นของจำเลยได้นั้น ข้อตกลงดังกล่าวจึงมีลักษณะเป็นเบี้ยปร...

บุคคลภายนอกสละเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญา (ฎ.1950/2543)

โจทก์นำรถยนต์คันที่หายเอาประกันภัยไว้กับจำเลย โดยระบุให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ก. เป็นผู้รับประโยชน์ เป็นสัญญาเพื่อประโยชน์ของบุคคลภายนอก   สิทธิของบุคคลภายนอกจะเกิดขึ้นต่อเมื่อได้แสดงเจตนาแก่ลูกหนี้ว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญา ตราบใดที่ยังไม่ได้แสดงเจตนาดังกล่าว คู่สัญญาอาจจะเปลี่ยนแปลงหรือระงับสิทธิตามสัญญานั้นได้  แต่ข้อเท็จจริงกลับปรากฏว่าบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ก. ฟ้องโจทก์ให้ชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ แสดงว่าได้สละเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญาแล้ว โจทก์และจำเลยจึงเป็นคู่สัญญามีสิทธิที่จะได้รับประโยชน์จากสัญญาซึ่งกันและกันตามหลักทั่วไป และโจทก์มีสิทธิเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเข้าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยเองได้ จึงมีอำนาจฟ้อง ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา

ฟ้องฐานผิดสัญญาและละเมิด ไม่ขัดแย้งกัน (ฎ.3814/2525)

การกระทำผิดกฎหมายในเรื่องละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 นั้น หมายความว่าเป็นการกระทำล่วงสิทธิของผู้อื่นที่กฎหมายกำหนดไว้อันมีแก่บุคคลทั่วไปจะเป็นใครก็ได้  ซึ่งโจทก์บรรยายฟ้องคดีนี้ไว้ชัดว่า จำเลยที่ 2 ได้ยกกล่องผ้าไหมมัดหมี่ของโจทก์ให้แก่ผู้อื่นไปโดยปราศจากความระมัดระวัง จึงเป็นการกระทำล่วงสิทธิของโจทก์ในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน ซึ่งไม่ว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำก็เป็น ละเมิด   แม้คดีนี้โจทก์และจำเลยจะสมัครใจเข้าผูกพันกันโดย สัญญารับขน แต่เมื่อการที่จำเลยผิดสัญญานั้นเป็นเรื่องที่จำเลยมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวกับละเมิดอยู่ด้วย จึงอาจฟ้องรับผิดทั้งในด้านสัญญาและละเมิดพร้อม ๆ กัน และโจทก์มีสิทธิจะฟ้องอย่างไรก็ได้ไม่เป็นการขัดกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ซึ่งยอมรับบังคับให้ผู้กระทำผิดสัญญาหรือละเมิดต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายได้ทั้งในทางผิดสัญญาหรือละเมิด ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา

สัญญาเช่าซื้อมีข้อสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก (ฎ.1366/2516)

สัญญาเช่าซื้อก็คือสัญญาเช่าทรัพย์บวกด้วยคำมั่นจะขายทรัพย์สินนั้น สัญญาเช่าเป็นสิทธิเฉพาะตัวผู้เช่า คำมั่นจะขายทรัพย์สินที่ให้เช่าเป็นสิทธิในทรัพย์สินซึ่งอาจตกเป็นมรดกของคู่สัญญาที่ถึงแก่กรรมได้ คู่สัญญาทำสัญญาเช่าซื้อ โดยมีข้อสัญญาระบุว่า ให้ผู้เช่าซื้อระบุตัวทายาทผู้รับสิทธิในการเช่าซื้อแทนได้เมื่อผู้เช่าซื้อถึงแก่กรรม และผู้เช่าซื้อได้ระบุตัวทายาทผู้รับสิทธิในการเช่าซื้อไว้แล้ว ข้อสัญญาดังกล่าวนี้เป็นข้อสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374   ฉะนั้น เมื่อผู้เช่าซื้อถึงแก่กรรม และทายาทผู้รับสิทธิดังกล่าวได้แสดงเจตนาเข้าถือเอาประโยชน์จากสัญญานี้ต่อผู้ให้เช่าซื้อตามมาตรา 374 วรรคสอง แล้ว สิทธิในการเช่าซื้อจึงตกเป็นของทายาทผู้รับสิทธิดังกล่าวโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ตกเป็นมรดกของผู้ตายต่อไป ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา

สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก (ฎ.10942-10943/2558)

ในการทำสัญญาเช่า การที่ จำเลยร่วมผู้ให้เช่า ตกลงกับ จำเลยที่ 2 ผู้เช่า ว่า จำเลยร่วมตกลงยอมรับผิดต่อผู้โดยสารในรถยนต์ที่นำมาให้เช่าและบุคคลภายนอก ในความเสียหายที่จำเลยที่ 1 ลูกจ้างจำเลยที่ 2 กระทำละเมิดขับรถยนต์ที่เช่าไปก่อความเสียหายขึ้น เป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374  ไม่ถือว่าเป็นข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ไม่มีผลบังคับตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยข้อสัญญาที่ไม่เป็นธรรม พ.ศ.2540  และไม่ใช่ความตกลงที่ทำไว้ล่วงหน้าเป็นข้อความยกเว้นมิให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดเพื่อกลฉ้อฉลหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของตนในอันจะถือว่าเป็นโมฆะ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 373 เนื่องจากจำเลยที่ 2 ก็ยังต้องรับผิดต่อโจทก์ทั้งสองในเหตุละเมิดที่จำเลยที่ 1 กระทำขึ้นในครั้งนี้  เมื่อเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก การที่จำเลยที่ 1 ลูกจ้างจำเลยที่ 2 กระทำละเมิดในทางการที่ว่าจ้าง โดยขับรถยนต์กระบะที่เช่าไปก่อความเสียหายแก่โจทก์ทั้งสอง จำเลยที่ 2 ในฐานะคู่สัญญา จึงมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยร่วมชดใช้ค่าเสียหายที่จำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อ...

นิติบุคคลอาคารชุด ปล่อยให้ท่อระบายน้ำอุดตัน เป็นการกระทำละเมิด (ฎ.4493/2543)

พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 ต้องการให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ในห้องชุดอันเป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลสามารถใช้สิทธิในห้องชุดได้ตามสิทธิของตน แต่ทรัพย์ส่วนกลางถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์รวมระหว่างเจ้าของห้องชุดซึ่งมีไว้เพื่อใช้หรือเพื่อประโยชน์ร่วมกัน   ทั้งกฎหมายและข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุด ล้วนกำหนดให้เป็นหน้าที่ของนิติบุคคลอาคารชุดจำเลยที่ 1 ต้องดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลางของอาคารชุด เมื่อสาเหตุที่น้ำท่วมห้องชุดของโจทก์เพราะน้ำฝนเอ่อล้นจากท่อรับน้ำภายในอาคารชุด เนื่องจากท่อรวมรับน้ำอุดตัน ซึ่งจำเลยที่ 1 มีหน้าที่ดูแลให้ท่อระบายน้ำดังกล่าวระบายน้ำได้ตลอดเวลา   แม้โจทก์มิได้นำสืบว่าเหตุใดท่อน้ำจึงอุดตัน และจำเลยที่ 1 ได้กระทำอย่างไรกับสิ่งอุดตันนั้นหรือบริเวณที่อุดตันนั้นไม่อาจตรวจพบได้โดยง่าย ก็ถือได้ว่าเป็นการกระทำละเมิดของจำเลยที่ 1 แล้ว เพราะ จำเลยที่ 1 ได้เก็บเงินค่าดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลาง แล้วว่าจ้างบริษัทเอกชนที่มีอาชีพในการบริหารอาคารชุดมาทำหน้าที่แทน เมื่อบริษัทดังกล่าวละเว้นหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อปล่อยให้ท่อระบายน้ำอุดตันจนน้ำท่วมห้องชุดของโจทก์ เช่นนี้ ย่อมเป็นการกระทำละเมิ...

อายุความเรียกค่าทดแทนในการเปิดทางจำเป็น ไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี (ฎ.313/2567)

การเรียกร้องค่าทดแทนเป็นสิทธิของเจ้าของที่ดินที่ล้อมอยู่ เพื่อชดเชยความเสียหายอันที่เกิดแต่เหตุที่มีทางผ่านนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349 วรรคสี่  โจทก์ทั้งสามจึงมีสิทธิที่จะฟ้องเรียกค่าทดแทนการใช้ที่ดินจากจำเลยเป็นคดีต่างหากได้ หากศาลในคดีก่อนวินิจฉัยชี้ขาดให้จำเลยได้สิทธิทางจำเป็นใช้ทางผ่านบนที่ดินของโจทก์ทั้งสาม โดยโจทก์ทั้งสามไม่จำต้องฟ้องแย้งเรียกค่าทดแทนมาในคำให้การ  เมื่อข้อเท็จจริงได้ความตามทางนำสืบของคู่ความว่า มีการบังคับคดีเปิดทางจำเป็นตามคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีก่อนเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2555 โจทก์ทั้งสามจึงชอบที่จะใช้สิทธิเรียกร้องค่าทดแทนการใช้ทางจำเป็นบนที่ดินของโจทก์ทั้งสาม นับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2555  อายุความสิทธิเรียกร้องค่าทดแทนของโจทก์ทั้งสาม จึงเริ่มนับแต่วันดังกล่าว   เมื่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะในเรื่องอายุความใช้ค่าทดแทนในการเปิดทางจำเป็นไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 193/30  เมื่อนับระยะเวลานับแต่วันที่มีการเปิดใช้ทางจำเป็น จนถึงวันที่โจท...

เลิกสัญญาแล้ว แต่งานที่ลูกหนี้ทำไว้ เจ้าหนี้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ไม่ถือเป็นงานที่ทำ (ฎ.2835/2566)

เมื่อโจทก์ใช้สิทธิเลิกสัญญาแล้ว ย่อมมีผลให้โจทก์และจำเลยทั้งสองต้องกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคหนึ่ง  แต่เนื่องจากจำเลยทั้งสองทำการงานให้แก่โจทก์แล้วบางส่วน จึงไม่อาจกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมได้ กรณีจึงต้องบังคับตามมาตรา 391 วรรคสาม ที่บัญญัติว่า ส่วนที่เป็นการงานอันได้กระทำให้นั้น การที่จะชดใช้คืน ให้ทำได้ด้วยใช้เงินตามควรค่าแห่งการนั้น ๆ  เมื่อโจทก์และจำเลยทั้งสองยังมีข้อโต้เถียงกันเกี่ยวกับการงานที่ได้ทำไปแล้ว กรณีจึงมีข้อพิจารณาว่า ค่าแห่งการงานที่จำเลยทั้งสองทำให้โจทก์นั้นมีเพียงใด   เห็นว่า สัญญาว่าจ้างผลิตเครื่องสำอางแบบเบ็ดเสร็จที่โจทก์ทำกับจำเลยทั้งสองมีลักษณะเป็นการเฉพาะ มุ่งประสงค์ถึงผลสำเร็จของงานเป็นสำคัญ คือผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่เสร็จสมบูรณ์พร้อมที่โจทก์สามารถนำไปวางจำหน่ายได้  แต่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองยังไม่เคยผลิตเครื่องสำอางเป็นผลสำเร็จและส่งมอบผลงานให้แก่โจทก์ตามสัญญาได้แม้แต่ชิ้นเดียว แม้จำเลยทั้งสองจะได้ดำเนินการคิดค้น วิเคราะห์วิจัย และพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้โจทก์จนสามารถนำไปขอจดแ...

ตกลงกันให้ชำระค่าเช่าภายหลังเลิกสัญญากันแล้ว ไม่ได้ (ฎ.1574/2566)

สัญญาเช่าข้อ 10.3 กำหนดว่า ในกรณีที่ผู้เช่าบอกเลิกสัญญาก่อนหมดอายุสัญญา โดยมิได้เป็นความผิดของผู้ให้เช่า ผู้เช่าต้องรับผิดชอบชำระค่าเช่าทั้งหมดตลอดอายุสัญญาเช่า สอดคล้องกับข้อ 3.2 ซึ่งกำหนดว่า หากสัญญาเช่าสิ้นสุดก่อนครบกำหนดระยะเวลาการเช่า โดยเหตุจากการกระทำผิดสัญญาของผู้เช่าหรือผู้เช่าขอเลิกสัญญาเช่าก่อนกำหนดระยะเวลา ผู้เช่าตกลงให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิยึดเงินประกันได้ทั้งจำนวน นอกจากนี้สัญญาเช่าข้อ 11 ยังระบุว่า เมื่อสัญญาสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุครบกำหนดสัญญาแล้ว ไม่มีการต่อสัญญาออกไปตามข้อ 9 หรือโดยการบอกเลิกสัญญาตามข้อ 10 หรือด้วยเหตุอื่นใด ผู้ให้เช่ามีสิทธิดังต่อไปนี้ ข้อ 11.1 ผู้ให้เช่ามีสิทธิกลับเข้าครอบครองทรัพย์สินที่เช่าได้ทันที โดยมิจำเป็นต้องบอกกล่าวให้ผู้เช่าทราบก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ผู้ให้เช่ามีสิทธิครอบครองยึดหน่วง และขนย้ายทรัพย์สินทั้งปวงที่อยู่ในทรัพย์สินที่เช่าออกไป รวมทั้งมีสิทธิดำเนินการให้ผู้อื่นเช่าทรัพย์สินที่เช่าต่อไปด้วย และสัญญาจ้างบริการข้อ 8 ยังกำหนดให้โจทก์มีสิทธิยึดเงินประกันการใช้บริการได้ในกรณีสัญญาจ้างบริการสิ้นสุดโดยเหตุแห่งการผิดสัญญาของจำเลย  แสดงให้เห็น...

แม้มีข้อความว่ามีแนวโน้มจะตกลงกันได้ แต่พฤติการณ์อื่นมีความชัดเจนที่สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลสมบูรณ์ (ฎ.3237/2567)

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 บัญญัติว่า "อันว่าประนีประนอมยอมความนั้น คือ สัญญาซึ่งผู้เป็นคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทอันใดอันหนึ่ง ซึ่งมีอยู่หรือจะมีขึ้นนั้นให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กัน"  ตามรายงานการประชุมการไกล่เกลี่ยครั้งที่ 3 ปรากฏข้อความในช่องรายการอื่น ๆ ว่า โจทก์ตกลงถอนฟ้อง โดยจำเลยทั้งสองเสนอให้ขายที่ดินพิพาทในราคาไม่ต่ำกว่า 30,000,000 บาท ภายใน 1 ปี หากไม่มีผู้ซื้อ จำเลยที่ 2 ตกลงเป็นผู้ซื้อเอง เมื่อขายที่ดินพิพาทได้แล้ว จำเลยทั้งสองจะแบ่งเงินที่ได้จากการขายที่ดินตามสัดส่วนการถือหุ้นของโจทก์ให้แก่โจทก์ แต่จะจ่ายให้โจทก์ไม่ต่ำกว่า 8,500,000 บาท  และในวันเดียวกันโจทก์และจำเลยทั้งสองต่างยื่นคำร้องขอถอนฟ้องและถอนฟ้องแย้ง ศาลแพ่งอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องและจำเลยทั้งสองถอนฟ้องแย้ง และจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ  กรณีเช่นนี้ย่อมถือได้ว่า โจทก์และจำเลยทั้งสองต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันที่จะระงับข้อพิพาทที่มีอยู่เดิมตามคำฟ้อง คำให้การ ฟ้องแย้ง และคำให้การแก้ฟ้องแย้ง โดยโจทก์และจำเลยทั้งสองต่างมีเจตนามุ่งหมายให้มีการบังคับต่อกันตามบันทึกข้อตกลงที่ปรากฏในราย...

ผู้ให้เช่าซื้อรถยนต์ ส่งมอบรถโดยไม่จัดหาป้ายทะเบียนและป้ายวงกลม ผู้เช่าซื้อมีสิทธิไม่ชำระค่าเช่าซื้อ (ฎ.951/2544)

โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อต้องส่งมอบทรัพย์สินซึ่งให้เช่าซื้อ โดยมีสภาพที่เหมาะสมแก่การใช้ประโยชน์ เมื่อรถพิพาทยังมิได้ทำทะเบียนและแผ่นป้ายวงกลม โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องจัดหาให้แก่จำเลย เพราะเอกสารดังกล่าว เป็นสาระสำคัญในการใช้รถโดยจะต้องเป็นผู้จัดอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียน เพื่อใช้รถที่เช่าซื้อตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อ   การที่โจทก์ส่งมอบรถพิพาทให้แก่จำเลยมีสภาพไม่เหมาะสมที่จะใช้ โดยไม่จัดหาป้ายทะเบียนและป้ายวงกลมให้แก่จำเลย โจทก์จึงต้องรับผิดต่อจำเลย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 472 ประกอบมาตรา 549 เนื่องจากสัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาต่างตอบแทน  เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยย่อมมีสิทธิที่จะไม่ชำระค่าเช่าซื้อได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 369 การที่จำเลยไม่ชำระค่าเช่าซื้อให้แก่โจทก์ จึงไม่ถือว่าจำเลยผิดนัด ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา

ผลของคำสนอง

คำสนอง ทำให้เกิดผล 5 ประการ 1. ก่อให้เกิดสัญญา  หากคำสนองถูกต้องตรงกันกับคำเสนอทุกประการ โดยปราศจากข้อความเพิ่มเติม ข้อจำกัด หรือข้อแก้ไขอย่างอื่น ที่มีลักษณะเป็นการต่อรอง และอยู่ภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว สัญญาย่อมเกิดขึ้นทันที 2. ผลต่อการถอนคำสนอง   - หากคำสนองยังไปไม่ถึงผู้เสนอ ผู้สนองย่อมสามารถถอนคำสนองของตนได้ โดยบอกถอนคำสนองไปถึงก่อนหรือพร้อมกับคำสนองนั้น - หากคำสนองไปถึงผู้เสนอแล้ว ผู้สนองไม่สามารถถอนได้อีกเลย เพราะถือว่าสัญญาเกิดขึ้นแล้ว 3. ผู้สนองแสดงเจตนาสนองแล้วตายหรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ เมื่อได้แสดงเจตนาทำคำสนองไปแล้ว แม้ต่อมาผู้สนองถึงแก่ความตายหรือตกเป็นผู้ไร้ความสามารถ และผู้เสนอได้รู้ถึงความตายหรือการตกเป็นผู้ไร้ความสามารถก่อนที่คำสนองนั้นจะไปถึง ก็ไม่มีผลให้คำเสนอและคำสนองนั้นสิ้นผลไป 4. คำสนอง อาจกลายเป็นคำเสนอใหม่ได้   - กรณีคำสนองที่มาถึงล่วงเวลา แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 357 จะกำหนดให้คำเสนอต้องมีอันสิ้นไปและไม่ก่อให้เกิดสัญญาขึ้น แต่มาตรา 359 วรรคหนึ่ง ได้บัญญัติข้อยกเว้นไว้ให้ถือว่าคำสนองนั้นกลายเป็นคำเสนอใหม่ได้ ดังนั้น หากผู้เสนอเดิมพ...

ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ไม่ใช่สิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมสัญญาค้ำประกัน (ฎ.4238/2559)

สัญญาค้ำประกันเป็นกรณีที่ผู้ค้ำประกันเข้าผูกพันตนต่อเจ้าหนี้ เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น การที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้จึงเป็นข้อที่คาดเห็นว่าอาจจะเกิดขึ้นได้และผู้ค้ำประกันยังคงเข้าผูกพันตนต่อเจ้าหนี้เพื่อชำระหนี้แทนลูกหนี้   การที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้เพราะเหตุใด ไม่ใช่ข้อที่ผู้ค้ำประกันจะนำมาอ้างเพื่อไม่ชำระหนี้แทนลูกหนี้ ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ จึงไม่ใช่สิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมสัญญาค้ำประกันที่ผู้ค้ำประกันจะถือเป็นเงื่อนไขว่าจะทำสัญญาค้ำประกันหรือไม่ หากผู้ค้ำประกันอ้างได้ว่าถ้ารู้ว่าลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ก็จะไม่เข้าทำสัญญาค้ำประกัน ความรับผิดของผู้ค้ำประกันตามสัญญาค้ำประกันย่อมไม่อาจมีขึ้นได้ ซึ่งขัดต่อวัตถุประสงค์ของลักษณะสัญญาค้ำประกัน ผู้ค้ำประกันจึงไม่อาจอ้างว่าหากผู้ค้ำประกันรู้ว่าลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ผู้ค้ำประกันก็จะไม่เข้าทำสัญญาค้ำประกัน การแสดงเจตนาเข้าทำสัญญาของผู้ค้ำประกันโดยไม่รู้เรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ จึงไม่ถือว่าเป็นการแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉลอันเป็นโมฆียะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 159 วรรค...

ประชดว่าปลดหนี้ โดยลูกหนี้ไม่รู้ว่าประชด หนี้ระงับ (ฎ.6757/2560)

จำเลยทำสัญญากู้ยืมเงินโจทก์ 595,500 บาท ตกลงชำระดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน จำเลยได้รับเงินที่กู้ยืมครบถ้วนแล้ว หลังจากทำสัญญาจำเลยไม่ชำระต้นเงิน คงชำระดอกเบี้ย 4 ครั้ง รวมเป็นเงิน 6,550 บาท  การที่ โจทก์ส่งข้อความทางเฟสบุ๊คถึงจำเลยมีใจความว่า เงินทั้งหมด 670,000 บาท ไม่ต้องส่งคืน ยกให้หมด ไม่ต้องส่งดอกอะไรมาให้ จะได้ไม่ต้องมีภาระหนี้สินติดตัว   การส่งข้อมูลดังกล่าวเป็นการสนทนาผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ถือว่าเป็นการส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ จึงต้องนำพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 มาตรา 7 ถึงมาตรา 9 มาใช้บังคับด้วย  แม้ข้อความนี้จะไม่มีการลงลายมือชื่อโจทก์ก็ตาม แต่การส่งข้อความทางเฟสบุ๊คจะปรากฏชื่อผู้ส่งด้วยและโจทก์ก็ยอมรับว่าได้ส่งข้อความถึงจำเลยจริง  ข้อความการสนทนา ดังกล่าวจึงรับฟังได้ว่า เป็นการแสดงเจตนาปลดหนี้ให้แก่จำเลยโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 340 แล้ว หนี้ตามสัญญากู้ยืมย่อมระงับ   การที่โจทก์อ้างว่า โจทก์ไม่มีเจตนาที่จะปลดหนี้ให้จำเลย แต่ทำไปเพราะความเครียดต้องการประชดประชันจำเลยนั้น โจทก...

แนวทางปฏิบัติการย้ายพนักงานราชการประเภททั่วไปภายในส่วนราชการระดับกรม

คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ (คพร.) ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าเพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรบุคคลของส่วนราชการ ให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว และสามารถเคลื่อนย้ายกำลังคนให้สอดคล้องกับบทบาทภารกิจที่เปลี่ยนแปลงไป จึงมีมติกำหนดแนวทางปฏิบัติและหลักเกณฑ์การย้ายพนักงานราชการประเภททั่วไปภายในส่วนราชการระดับกรม และการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้างพนักงานราชการ ดังนี้ หลักการย้ายพนักงานราชการ       การย้ายพนักงานราชการประเภททั่วไปภายในส่วนราชการระดับกรม มีเจตนารมณ์เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารอัตรากำลังของส่วนราชการ ให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และใช้อัตรากำลังพนักงานราชการที่มีอยู่ของส่วนราชการให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีหลักการในการย้ายพนักงานราชการ ดังนี้     1. การย้ายพนักงานราชการภายในส่วนราชการระดับกรม ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ     2. การย้ายพนักงานราชการต้องไม่ทำให้จำนวนกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการและค่าตอบแทนพนักงานราชการเฉลี่ยโดยรวมเพิ่มขึ้น รวมถึงไม่กระทบกับสิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการที่ได้รับอยู่เดิม ...

ต้องเปิดเผยข้อมูลคะแนนของผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ให้แก่ผู้ที่ไม่ได้รับการคัดเลือก (คำวินิจฉัยที่ สค 313/2567)

นาย ก. ได้ส่งเรื่องประกอบการพิจารณาย้ายผู้บริหารสถานศึกษา แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้ย้าย จึงมีความประสงค์ขอข้อมูลงบหน้ารายละเอียดตัวชี้วัด และคะแนนการประเมินตามองค์ประกอบการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาที่มีคะแนนทุกตัวชี้วัด ของตนเอง และของนาง ข. ซึ่งเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้ย้าย หน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการคัดเลือกดังกล่าว ได้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับนาย ก. ผู้อุทธรณ์ แต่ปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารในส่วนของนาง ข. นาย ก. จึงมีหนังสือถึงประธานกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าว คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย พิจารณาแล้ว เห็นว่านาง ข. ซึ่งเป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ซึ่งนาย ก. ผู้อุทธรณ์ ได้ยื่นคำร้องขอย้ายไปดำรงตำแหน่ง ณ โรงเรียนดังกล่าวเช่นกัน แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก ผู้อุทธรณ์จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียจากกรณีนี้โดยตรง สมควรได้รับทราบผลคะแนนต่าง ๆ ของผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งดังกล่าว เพื่อการตรวจสอบและเปรียบเทียบ จากข้อเท็จ...

การให้ทนายความหรือบุคคลภายนอกเข้าร่วมดำเนินคดีกับพนักงานอัยการ

ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบาย สำนักงานอัยการสูงสุุด ครั้งที่ 5/2545 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2545 พิจารณาเห็นว่า เป็นการสมควรที่จะปรับปรุงระบบงานยุติธรรมของสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สอดคล้องเหมาะสมกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จึงมีมติให้ยกเลิกหนังสือกรมอัยการ (ที่ มท 1002/1084 ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2510 เรื่อง การจ้างบุคคลภายนอกเป็นทนายเข้าร่วมดำเนินคดีกับพนักงานอัยการ) และให้ถือปฏิบัติในเรื่องการให้ทนายความหรือบุคคลภายนอกเข้าร่วมดำเนินคดีแก้ต่างกับพนักงานอัยการ ดังต่อไปนี้ ในคดีแพ่งหรืออาญาหรือปกครอง ซึ่งเจ้าพนักงานถูกฟ้องในเรื่องการที่ได้กระทำไปตามหน้าที่ ซึ่งพนักงานอัยการรับแก้ต่างคดีไว้แล้ว หากตัวความแสดงความประสงค์ขอแต่งตั้งทนายความหรือบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมแก้ต่างคดีกับพนักงานอัยการ ให้หัวหน้าพนักงานอัยการพิจารณาอนุญาตให้กระทำได้ ในกรณีที่มีทนายความหรือบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมแก้ต่างคดีกับพนักงานอัยการ ถ้าพนักงานอัยการเห็นว่าทนายความหรือบุคคลภายนอกจะกระทำหรือละเว้นการกระทำใด ๆ ให้คดีของพนักงานอัยการเสียหาย ให้พนักงานอัยการพิจารณาขอให้ทนายความหรือบุคคลภายนอกละเว้นหรือกระทำการนั้น ๆ ได้ หากท...

สำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมและเกิดจากกลฉ้อฉลในขณะเดียวกัน (ฎ.6103/2545)

โจทก์ตกลงขายที่ดินให้แก่จำเลยที่ 1 โดยสำคัญผิดในราคาที่ดินเพราะถูกนายหน้าหลอกลวง ซึ่งจำเลยที่ 1 รู้หรือควรจะได้รู้ถึงการหลอกลวงดังกล่าว  การที่โจทก์สำคัญผิดในเรื่องราคาทรัพย์สินที่ตกลงซื้อขายกัน แม้มิใช่สำคัญผิดในลักษณะของนิติกรรมหรือตัวบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีหรือทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม แต่ราคาทรัพย์สินที่ตกลงซื้อขายกันย่อมมีความสำคัญมากพอกับตัวทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม จึงถือว่าโจทก์แสดงเจตนาทำนิติกรรมโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญของนิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 156 เมื่อนิติกรรมซื้อขายที่ดินเกิดจากการแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมและเกิดจากกลฉ้อฉลในขณะเดียวกัน แต่ผลทางกฎหมายต่างกัน  กล่าวคือ นิติกรรมที่เกิดจากการแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสิ่งซึ่งเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรมมีผลเป็น โมฆะ ตามมาตรา 156 แต่นิติกรรมที่เกิดจากการแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉลมีผลเป็น โมฆียะ ตามมาตรา 159 จึงต้องถือว่านิติกรรมเป็นโมฆะ เพราะเป็นผลดีต่อผู้แสดงเจตนาทำนิติกรรมโดยบกพร่องยิ่งกว่าเป็นโมฆียะ ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวิ...

ผู้ค้ำประกันไม่แจ้งย้ายที่อยู่ และไม่มีผู้รับหนังสือบอกกล่าวการผิดนัด (ฎ.3263/2562)

"การแสดงเจตนาแก่บุคคลซึ่งมิได้อยู่เฉพาะหน้า มีผลทันทีนับแต่เวลาที่การแสดงเจตนาไปถึงผู้รับการแสดงเจตนา โดยไม่คำนึงว่าผู้รับการแสดงเจตนาจะได้ทราบการแสดงเจตนาแล้วหรือไม่" เมื่อตามสัญญาค้ำประกัน ข้อ 8 ระบุว่า ผู้ค้ำประกันตกลงว่าในกรณีที่ธนาคารมีหนังสือแจ้งหรือบอกกล่าวเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการค้ำประกันตามหนังสือสัญญานี้ หรือตามกฎหมาย หากส่งไปยังผู้ค้ำประกัน ณ ที่อยู่ข้างต้นของหนังสือสัญญานี้ หรือส่ง ณ สถานที่ซึ่งผู้ค้ำประกันแจ้งให้ธนาคารทราบเป็นหนังสือภายหลัง ให้ถือว่าธนาคารได้แจ้งหรือบอกกล่าวเป็นหนังสือให้ผู้ค้ำประกันทราบโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว  เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 เคยแจ้งย้ายให้โจทก์ทราบ ดังนั้น ที่พนักงานไปรษณีย์นำหนังสือทวงถามของโจทก์ไปส่งให้จำเลยที่ 2 ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในสัญญา อันเป็นการส่งอย่างเป็นทางการ แม้จะไม่พบจำเลยที่ 2 และไม่มีผู้รับไว้โดยระบุว่าย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่ แสดงว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่รับหนังสือบอกล่าวของโจทก์ และถือได้ว่าหนังสือบอกกล่าวการผิดนัดของโจทก์ได้ ไปถึงจำเลยที่ 2   และมีผลเป็นการบอกกล่าวโดยชอบ ที่มา อาจารย์บวรศักดิ์ ทวิพัฒน์ รวม...

สมคบกันทำสัญญากู้ยืมและสัญญาประนีประนอมยอมความ เพื่อโกงเจ้าหนี้ สัญญาตกเป็นโมฆะ (ฎ.701/2553)

จำเลยที่ 1 และที่ 2 สมคบกันทำสัญญากู้ยืมเงินฉบับลงวันที่ 30 กันยายน 2541 จำนวนเงิน 500,000 บาท และฉบับลงวันที่ 30 เมษายน 2542 จำนวนเงิน 200,000 บาท โดยมิได้เป็นหนี้กันจริง   แล้วดำเนินคดีและบังคับคดีตามคำพิพากษาตามยอมในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 42/2545 ของศาลชั้นต้นต่อที่ดินโฉนดเลขที่ 47781 พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 เพื่อมิให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1142/2544 ของศาลชั้นต้น บังคับคดีต่อทรัพย์สินดังกล่าวได้   การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นการจงใจทำผิดกฎหมาย อันเป็นความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350 สัญญากู้ยืมเงินทั้ง 2 ฉบับและสัญญาประนีประนอมยอมความในคดีแพ่ง หมายเลขแดงที่ 42/2545 ของศาลชั้นต้น จึงมีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมายและขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตกเป็นโมฆะ  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 โดยไม่ต้องเพิกถอน ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา

ผู้พิทักษ์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ (ฎ.5720/2546)

ตามมาตรา 34 (10) ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คนเสมือนไร้ความสามารถฟ้องคดีแพ่งและคดีอาญาได้ด้วยตนเอง โดยต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ก่อน  ดังนั้น ผู้พิทักษ์จึงมีอำนาจหน้าที่เพียงให้ความยินยอมหรือไม่ให้ความยินยอมแก่คนเสมือนไร้ความสามารถในการฟ้องคดีเท่านั้น แต่ไม่มีบทบัญญัติใดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้อำนาจผู้พิทักษ์ฟ้องคดีแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ ผู้พิทักษ์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนคนเสมือนไร้ความสามารถ  การที่โจทก์ลงลายมือชื่อแต่งทนายความและบรรยายฟ้องว่าโจทก์ในฐานะผู้พิทักษ์ของ ข. คนเสมือนไร้ความสามารถ อันเป็นการฟ้องคดีแทน ข. โดยไม่ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินคดีแทนแต่อย่างใด โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

ดัชนีสืบค้นความเห็นของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (รายมาตรา)

รูปภาพ
กองกฎหมายปกครอง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้จัดทำดังชีสืบค้นความเห็นของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (รายมาตรา) เพื่อให้การสืบค้นข้อมูลสะดวก รวดเร็วขึ้น เช่น หากต้องการข้อมูลว่าคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองได้มีความเห็นเกี่ยวกับมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ไว้ในเรื่องใดบ้าง ก็สามารถสืบค้นได้สะดวกขึ้นครับ ดัชนีสืบค้น รายมาตรา ดัชนีสืบค้น อนุบัญญัติ ✅   คลิกดาวน์โหลด ดัชนีสืบค้นความเห็นของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (รายมาตรา) ✅ ลิงก์สืบค้นความเห็นของคณะกรรมการฯ

นิติบุคคลมอบอำนาจร้องทุกข์ (ฎ.1590/2530)

แม้การร้องทุกข์มิใช่การทำนิติกรรม แต่การมอบอำนาจให้ไปร้องทุกข์แทนโจทก์ โจทก์ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทโจทก์ที่ได้จดทะเบียนไว้  บริษัทโจทก์จดทะเบียนไว้ว่าจำนวนกรรมการที่ลงชื่อผูกพันบริษัทได้ คือ กรรมการจำพวก ก. 1นาย กับกรรมการจำพวก ข. 1 นาย  เมื่อกรรมการโจทก์เพียงผู้เดียวลงชื่อมอบอำนาจให้ ก. ไปร้องทุกข์ การมอบอำนาจจึงไม่ผูกพันบริษัทโจทก์ การกระทำของ ก. ไม่ผูกพันโจทก์ ในทางกลับกันบริษัทโจทก์ไม่สามารถถือเอาการกระทำของ ก. เป็นของโจทก์ได้  เมื่อโจทก์ไม่ได้ร้องทุกข์ ในคดีความผิดต่อ พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ภายในสามเดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีโจทก์ก็ขาดอายุความ

กรอกข้อความเอกสารไม่สมบูรณ์ ไม่ใช่เอกสารสิทธิ (ฎ.5089/2565)

ใบถอนเงินฝากมีเพียงลายมือชื่อปลอมของผู้เสียหาย ยังไม่ได้กรอกจำนวนเงินที่ขอถอน ส่วนใบมอบฉันทะด้านหลังก็มีเพียงลายมือชื่อปลอมของผู้เสียหาย ยังมิได้กรอกข้อความว่ามอบฉันทะให้ผู้ใดเป็นผู้รับเงินที่ขอถอน จึงเป็นเอกสารที่ข้อความยังไม่สมบูรณ์ มิใช่เอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ ถือไม่ได้ว่าเป็นเอกสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1 (9)   การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม คงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเท่านั้น ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งให้ส่งเงินเข้ากองทรัพย์สิน ไม่มีสภาพบังคับให้เกิดความเสียหาย (ฎ.3440/2567)

การที่ผู้คัดค้าน ( เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์)  ทำรายงานความเห็นและมีหมายแจ้งให้โจทก์คืนเงิน 2,500,000 บาท เข้ากองทรัพย์สินในคดีล้มละลาย เป็นการกระทำในขั้นตอนของการจัดการกิจการและทรัพย์สินของจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นอำนาจของผู้คัดค้านแต่เพียงผู้เดียว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 22 และ 24  ซึ่งตามรายงานความเห็นและหมายแจ้งของผู้คัดค้านดังกล่าว เป็นเพียงการแจ้งข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมายให้โจทก์ทราบ แม้ในตอนท้ายจะมีข้อความขอให้โจทก์คืนเงินจำนวนดังกล่าวภายใน 30 วัน นับแต่ได้รับหมายนี้ ก็มิได้มีลักษณะเป็นคำสั่งหรือคำวินิจฉัยชี้ขาดที่กฎหมายบัญญัติให้โจทก์ต้องปฏิบัติตาม   รายงานความเห็นและหมายแจ้งของผู้คัดค้านดังกล่าวจึงหามีสภาพบังคับแก่โจทก์ไม่   แม้ต่อมาหากปรากฏว่าผู้คัดค้านดำเนินคดีแก่โจทก์ ก็ยังไม่เป็นการแน่นอนว่าโจทก์ต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวเข้ากองทรัพย์สินในคดีล้มละลาย เพราะศาลอาจมีคำวินิจฉัยหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้   ลำพังรายงานความเห็นและหมายแจ้งของผู้คัดค้านที่แจ้งไปยังโจทก์ดังกล่าว จึงยังไม่เป็นการกระทำหรือคำวินิจฉัยของผู้คัดค้านที่ทำให้โจทก์ได้รับควา...

เวนคืนที่ดิน ไม่ใช่การซื้อขายที่เป็นนิติกรรมโดยสมัครใจ (ฎ.3093/2559)

การเวนคืนที่ดินเพื่อนำไปใช้ก่อสร้างคลองชลประทาน เป็นการใช้อำนาจรัฐเวนคืนที่ดินเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในกิจการสาธารณูปโภค และเป็นการใช้อำนาจรัฐบังคับเอาทรัพย์สินของเอกชนเพื่อประโยชน์ของรัฐ โดยเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเดิมไม่มีสิทธิตัดสินใจว่าจะยินยอมหรือไม่ ทั้งไม่อาจกำหนดหรือต่อรองราคาที่ตนเองพอใจได้ เพราะเป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายมหาชน   เช่นนี้ แม้การจดทะเบียนโอนที่ดินใช้คำว่า ซื้อขาย ก็ไม่ใช่การซื้อขายที่เป็นนิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 453 ซึ่งจะต้องเกิดจากการกระทำด้วยความสมัครใจและมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตามมาตรา 149 จึงไม่อาจนำกฎหมายเรื่องการแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสาระสำคัญของนิติกรรมตามมาตรา 156 อันเป็นหลักของกฎหมายเอกชนมาใช้บังคับได้ ที่มา เว็บฎีกาศึกษา