ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเจ้าหนี้นำมูลหนี้ตามคำพิพากษามาฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลาย แต่ศาลพิจารณาได้ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4050/2566)
คดีนี้สืบเนื่องจากเจ้าหนี้ได้นำมูลหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง คดีหมายเลขแดงที่ 7788/2541 พิพากษาเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2541 ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ คดีจึงถึงที่สุดวันที่ 22 พฤษภาคม 2541 มายื่นคำขอรับชำระหนี้
ศาลล้มละลายกลางเห็นว่าไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเจ้าหนี้นำมูลหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวยื่นฟ้องลูกหนี้ทั้งสามเป็นคดีล้มละลายหรือมีเหตุอื่นใดอันอาจทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/14 สิทธิเรียกร้องดังกล่าวจึงขาดอายุความและต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้
เจ้าหนี้อุทธรณ์ว่า เจ้าหนี้นำหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวมาฟ้องลูกหนี้ทั้งสามให้ล้มละลายต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2551 อายุความย่อมสะดุดหยุดลง ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทราบดีอยู่แล้วนั้น
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายเห็นว่า ตามรายงานความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในเรื่องคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงว่าไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ทั้งสามเด็ดขาด วันที่ 23 เมษายน 2552 เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์นำมูลหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่งดังกล่าวมายื่นคำขอรับชำระหนี้ แม้เจ้าหนี้ไม่นำพยานหลักฐานมาให้การสอบสวนต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จึงไม่ปรากฏข้อเท็จจริงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าเจ้าหนี้นำมูลหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวมาฟ้องลูกหนี้ทั้งสามให้ล้มละลาย
แต่หากศาลล้มละลายกลางพิจารณาสำนวนคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประกอบสำนวนของศาลล้มละลายกลางตามกระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ก็จะทราบว่าเจ้าหนี้ได้นำมูลหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวมาฟ้องลูกหนี้ทั้งสามต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2551 และศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ทั้งสามเด็ดขาดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 ตามคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดของลูกหนี้ทั้งสามและหมายแจ้งคำสั่งดังกล่าวแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฉบับลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552
มูลหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี นับแต่คดีถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/32 เมื่อมูลหนี้ตามคำพิพากษาคดีถึงที่สุดวันที่ 22 พฤษภาคม 2541 เจ้าหนี้นำมูลหนี้ตามคำพิพากษามาฟ้องเป็นคดีต่อศาลล้มละลายกลางวันที่ 18 เมษายน 2551 ภายในกำหนดอายุความ 10 ปี นับแต่คดีถึงที่สุด ย่อมมีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/14 (2) มูลหนี้ตามคำพิพากษาจึงยังไม่ขาดอายุความ เจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ตามมูลหนี้คำพิพากษาดังกล่าวได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำขอรับชำระหนี้เป็นการไม่ชอบ อุทธรณ์ของเจ้าหนี้ฟังขึ้น
พิพากษากลับ อนุญาตให้เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ทั้งสามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 106 ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ
ที่มา คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4050/2566 , ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา
พิพากษากลับ อนุญาตให้เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ทั้งสามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 106 ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ
ที่มา คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4050/2566 , ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น