ศาลรับฟังหลักวิชาการวิจัยและสถิติในคดียาเสพติด (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7123/2560)
คดีนี้ศาลฎีกากำหนดปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลย ว่าการตรวจเมทแอมเฟตามีนของกลางด้วยการสุ่มตรวจจากตัวอย่างร้อยละ 10 ของวัตถุของกลาง 2,000 เม็ด พบสารเมทแอมเฟตามีนในวัตถุตัวอย่างที่ตรวจ จึงนำมาคำนวณหาสารเสพติดทั้ง 2,000 เม็ด ได้สารบริสุทธิ์ของเมทแอมเฟตามีน 28.236 กรัม ของผู้เชี่ยวชาญจะรับฟังได้หรือไม่
ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา
ข้อเท็จจริงได้ความจากบันทึกการจับกุม เอกสารการส่งและรับวัตถุของกลางระหว่างพนักงานสอบสวนกับเจ้าพนักงานของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด รายงานผลการตรวจพิสูจน์ของกลางว่า
วัตถุของกลาง 20,000 เม็ด นั้น มีการแบ่งแยกบรรจุตามสีของเม็ดวัตถุและสีของถุงพลาสติกที่บรรจุมาก่อน โดยวัตถุเม็ดสีส้มจำนวน 1,980 เม็ด และสีเขียว 20 เม็ด ของกลางในคดีนี้บรรจุซองพลาสติกสีน้ำเงิน 10 ซอง มัดรวมกันเป็น 1 มัด รัดด้วยหนังยาง
ส่วนวัตถุเม็ดสีส้มอ่อนจำนวน 8,000 เม็ด บรรจุอยู่ในซองพลาสติกสีฟ้า แบ่งเป็น 4 มัด มัดละ 10 ซอง
กับวัตถุเม็ดสีส้มออกน้ำตาลจำนวน 10,000 เม็ด บรรจุซองพลาสติกสีน้ำเงินแบ่งเป็น 5 มัด มัดละ 10 ซอง
และผู้เชี่ยวชาญการตรวจพิสูจน์ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดได้สุ่มตรวจตามมัดที่บรรจุหีบห่อ ไม่ได้นำออกมาผสมปะปนกัน
เมื่อได้ความดังนี้ การตรวจหาสารเมทแอมเฟตามีนจากมัดวัตถุเม็ดสีส้ม 1,980 เม็ด และเม็ดสีเขียว 20 เม็ด ซึ่งบรรจุรวมกันเป็น 1 มัด โดยนำเม็ดวัตถุออกจากมัดดังกล่าวร้อยละ 10 หรือ 200 เม็ด จาก 2,000 เม็ด ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างกระจายไปตามซองที่บรรจุอยู่ในมัดซองละ 20 เม็ด ย่อมทำให้ตัวอย่างเม็ดวัตถุที่เก็บมาจากแต่ละซอง สามารถเฉลี่ยเป็นตัวแทนของเม็ดวัตถุที่อยู่ในซองแต่ละซองในมัดดังกล่าวได้ทั้งหมดตามหลักวิชาการวิจัยและสถิติ ที่เรียกตัวอย่างที่สุ่มออกมานั้นว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มประชากรที่วิจัย
และข้อเท็จจริงได้ความจากคำเบิกความของผู้ตรวจพิสูจน์ว่า พยานได้นำตัวอย่างเม็ดวัตถุออกมาซองละประมาณ 20 เม็ดทุกซอง ทุกรายการ นำมาทำการตรวจสอบ มิได้กระจุกอยู่ที่ซองใดซองหนึ่งหรือมัดใดมัดหนึ่งโดยเฉพาะ
ดังนั้น ปริมาณสารเมทแอมเฟตามีนที่คำนวณได้ตามรายงานผลการตรวจพิสูจน์ จึงเป็นไปตามหลักวิชาการวิจัยและสถิติที่รับฟังได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม (2) มาตรา 66 วรรคสาม นั้น ชอบด้วยผลแล้ว ฎีกาและฎีกาเพิ่มเติมในภายหลังของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
ที่มา ระบบสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งคำร้องและคำวินิจฉัยศาลฎีกา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น