สิทธิเรียกร้องตามสัญญาประกันชีวิตที่เป็นสินสมรส เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจรวบรวมทั้งหมด (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5980/2564 (ประชุมใหญ่))

ภายหลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ทำการยึดเงินคืนครบกำหนดสัญญาประกันภัย จำนวน 671,025.50 บาท

ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้าน เพื่อขอให้เพิกถอนการยึดและคืนเงินให้แก่ผู้ร้อง แต่ผู้คัดค้านมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงขอให้ศาลมีคำสั่งกลับคำสั่งผู้คัดค้านและคืนเงินให้แก่ผู้ร้อง

ผู้คัดค้านได้ยื่นคำคัดค้านว่า สัญญาประกันภัยดังกล่าวมีจำเลยเป็นผู้เอาประกันภัย ผู้ร้องมิได้เป็นคู่สัญญา เมื่อสัญญาประกันภัยครบกำหนด ผู้รับประกันภัยต้องส่งเงินคืนครบกำหนดตามกรมธรรม์ให้แก่จำเลย ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิในเงินคืนดังกล่าว ขอให้ศาลยกคำร้อง

ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้อง 

ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ พิพากษายกอุทธรณ์ของผู้ร้อง

ผู้ร้องฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายเห็นว่า ผู้ร้องเป็นผู้ดำเนินการจัดให้มีการทำสัญญาประกันชีวิตจำเลย ในลักษณะสัญญาประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (มีเงินปันผล) มีลักษณะเป็นการประกันความเสี่ยงชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเสียชีวิตของจำเลย เพื่อความมั่นคงของครอบครัว ทั้งยังมีลักษณะเป็นการออมทรัพย์และการลงทุนเพื่อผลประโยชน์ที่บริษัทตกลงจะจ่ายคืนในอนาคตด้วย

โดยผู้ร้องนำเงินรายได้ที่ทำมาหาได้ในระหว่างสมรสกับจำเลย ไปชำระเบี้ยประกันภัยก่อนมีการหย่า รวม 10 งวด จากทั้งหมด 12 งวด สิทธิเรียกร้องตามสัญญาประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (มีเงินปันผล) จึงเป็นทรัพย์สินที่จำเลยและผู้ร้องได้มาระหว่างสมรส จึงเป็นสินสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1474 (1) และเป็นสินสมรสที่มีอยู่ขณะที่มีการหย่า

เมื่อไม่ปรากฏว่าภายหลังการหย่า จำเลยกับผู้ร้องได้มีการตกลงแบ่งสินสมรสตามสัญญาประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (มีเงินปันผล) สิทธิเรียกร้องตามสัญญาประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (มีเงินปันผล) พิพาท ยังคงมีสภาพเป็นสิ่งสมรสที่ยังไม่ได้แบ่ง 

เมื่อกรมธรรม์ครบกำหนดวันที่ 26 ธันวาคม 2558 เงินที่บริษัทผู้รับประกันภัยจ่ายคืน ย่อมเป็นสินสมรสที่จำเลยกับผู้ร้องมีส่วนเป็นเจ้าของอยู่ด้วย 

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้คัดค้าน คงมีอำนาจจัดการและรวบรวมเข้ากองทรัพย์สินของจำเลย แต่ไม่มีอำนาจรวบรวมเอาเงินส่วนของผู้ร้องเข้ากองทรัพย์สินของจำเลยในคดีล้มละลาย และต้องคืนเงินส่วนนี้ให้แก่ผู้ร้อง

ที่มา
- คำพิพากษาฎีกาที่ 5980/2564 (ประชุมใหญ๋), เนติบัณฑิตยสภา สารบาญคำพิพากษาฎีกา ประจำพุทธศักราช 2564 ตอนที่ 12 หน้า 3336 - 3345

- ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
  มาตรา 1474 "สินสมรส ได้แก่ทรัพย์สิน
  (1) ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส
  (2) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดยการให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส
  (3) ที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว
  ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส"

- พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
  มาตรา 158
"ผู้มีส่วนได้เสียคนใดเห็นว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใด ให้คัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้รับคำคัดค้านแล้วให้สอบสวนและมีคำสั่ง ถ้าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึด ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคำร้องขอต่อศาลภายในกำหนดเวลาสิบสี่วัน นับแต่วันได้ทราบคำสั่งนั้น เมื่อศาลได้รับคำร้องขอแล้ว ให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งชี้ขาดเหมือนอย่างคดีธรรมดา โดยเรียกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาสู้คดี"

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

การส่งเด็กเข้าเรียนตามกฎหมาย

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ สารบรรณ (ชุดที่ 3)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542