แม้จดทะเบียนหย่าแล้วแต่ยังอยู่กินฉันสามีภริยา ฆ่าชู้โดยบันดาลโทสะ (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2582/2564)
จำเลยใช้ไม้เหลี่ยมยาว 1 เมตร ตีศีรษะผู้ตายโดยแรง 2-3 ครั้ง โดยจำเลยมองเห็นผู้ตายได้ดีและมีโอกาสเลือกตีอวัยวะส่วนอื่น แต่จำเลยกลับเลือกตีศีรษะซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญหลายครั้ง ถึงกับเป็นเหตุให้กะโหลกศีรษะด้านซ้ายและส่วนฐานด้านซ้ายแตกร้าวรุนแรง
จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าผู้ตายจะถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา การกระทำของจำเลย จึงเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
แม้จำเลยและนาง อ. จะจดทะเบียนหย่ากัน แต่จำเลยและนาง อ. ยังคงอยู่กินฉันสามีภริยากันหลังจากจดทะเบียนหย่า พฤติการณ์ที่จำเลยเข้ามาภายในบ้านที่เกิดเหตุ แล้วเห็นผู้ตายอยู่กับนาง อ. ในเวลากลางคืนในลักษณะชู้สาว เป็นการที่จำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้ไม้ตีศีรษะผู้ตายในขณะนั้น ย่อมเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
ที่มา
- คำพิพากษาฎีกาที่ 2582/2564, เนติบัณฑิตยสภา คำพิพากษาฎีกา ประจำพุทธศักราช 2564 ตอนที่ 2 หน้า 450 - 464
- ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 59 บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา
กระทำโดยเจตนา ได้แก่กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำและในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น
ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้
กระทำโดยประมาท ได้แก่กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
การกระทำ ให้หมายความรวมถึงการให้เกิดผลอันหนึ่งอันใดขึ้นโดยงดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย
มาตรา 72 ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
แม้จำเลยและนาง อ. จะจดทะเบียนหย่ากัน แต่จำเลยและนาง อ. ยังคงอยู่กินฉันสามีภริยากันหลังจากจดทะเบียนหย่า พฤติการณ์ที่จำเลยเข้ามาภายในบ้านที่เกิดเหตุ แล้วเห็นผู้ตายอยู่กับนาง อ. ในเวลากลางคืนในลักษณะชู้สาว เป็นการที่จำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม การที่จำเลยใช้ไม้ตีศีรษะผู้ตายในขณะนั้น ย่อมเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
ที่มา
- คำพิพากษาฎีกาที่ 2582/2564, เนติบัณฑิตยสภา คำพิพากษาฎีกา ประจำพุทธศักราช 2564 ตอนที่ 2 หน้า 450 - 464
- ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 59 บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่จะได้กระทำโดยประมาท ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่มีเจตนา
กระทำโดยเจตนา ได้แก่กระทำโดยรู้สำนึกในการที่กระทำและในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น
ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้
กระทำโดยประมาท ได้แก่กระทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่
การกระทำ ให้หมายความรวมถึงการให้เกิดผลอันหนึ่งอันใดขึ้นโดยงดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย
มาตรา 72 ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น