5 คณะกรรมการ ใน พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562


พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บัญญัติให้มีคณะกรรมการ 5 ชุด (ไม่รวมคณะกรรมการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ได้แก่
  1. คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 
  2. คณะกรรมการสรรหา (ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
  3. คณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  4. คณะกรรมการสรรหา (ประธานกรรมการและกรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับสำนักงานฯ)
  5. คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ

1. คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จำนวน 17 คน (มาตรา 8) ประกอบด้วย
  (1) ประธานกรรมการ
  (2) ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองประธานกรรมการ
  (3) ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการ
  (4) เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กรรมการ
  (5) เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรรมการ
  (6) อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรรมการ
  (7) อัยการสูงสุด กรรมการ
  (8) - (16) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน
  (17) เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรรมการและเลขานุการ
  * ประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหา

คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีหน้าที่และอำนาจ (มาตรา 16) ดังนี้ 
  1. จัดทำแผนแม่บทการดำเนินงานด้านการส่งเสริม และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนระดับชาติที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
  2. ส่งเสริมและสนับสนุนหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชน ดำเนินกิจกรรมตามแผนแม่บท ข้อ 1 รวมทั้งจัดให้มีการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทดังกล่าว
  3. กำหนดมาตรการหรือแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
  4. ออกประกาศหรือระเบียบ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
  5. ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปยังต่างประเทศ
  6. ประกาศกำหนดข้อปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นแนวทางให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติ
  7. เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีให้มีการตรา หรือปรับปรุงกฎหมายหรือกฎที่ใช้บังคับอยู่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  8. เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการตราพระราชกฤษฎีกาหรือทบทวนความเหมาะสมของพระราชบัญญัติฯ อย่างน้อยทุกรอบ 5 ปี
  9. ให้คำแนะนำและคำปรึกษาเกี่ยวกับการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
  10. ตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาที่เกิดจากการบังคับใช้พระราชบัญญัตินี้
  11. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดทักษะการเรียนรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ประชาชน
  12. ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัย เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  13. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่นกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2. คณะกรรมการสรรหา (ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) จำนวน 8 คน (มาตรา 9) ประกอบด้วย
  (1) - (2) บุคคลที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง 2 คน
  (3) - (4) บุคคลที่ประธานรัฐสภาแต่งตั้ง 2 คน
  (5) - (6) บุคคลที่ผู้ตรวจการแผ่นดินแต่งตั้ง 2 คน
  (7) - (8) บุคคลที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแต่งตั้ง 2 คน
  * คณะกรรมการสรรหา 8 คน เลือกกรรมการ 1 คน เป็นประธาน และอีก 1 คน เป็นเลขานุการ

คณะกรรมการสรรหา มีหน้าที่และอำนาจ คัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อคณะกรรมการสรรหาคัดเลือกเสร็จแล้ว ให้แจ้งรายชื่อประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมหลักฐานแสดงคุณสมบัติและการไม่มีลักษณะต้องห้าม รวมทั้งความยินยอมของบุคคลดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และให้นายกรัฐมนตรีประกาศรายชื่อประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในราชกิจจานุเบกษา (มาตรา 10)

3. คณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จำนวน 10 คน (มาตรา 48) ประกอบด้วย
  (1) ประธานกรรมการ
  (2) ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรรมการ
  (3) เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการ
  (4) - (9) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 คน
  (10) เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กรรมการและเลขานุการ
  * ประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้รับการสรรหาจากคณะกรรมการสรรหา

คณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีหน้าที่และอำนาจ (มาตรา 54) ดังนี้
  1. กำหนดนโยบายการบริหารงาน และให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงานของสำนักงาน
  2. ออกข้อบังคับว่าด้วยการจัดองค์กร การเงิน การบริหารงานบุคคล การบริหารงานทั่วไป การตรวจสอบภายใน รวมตลอดทั้งการสงเคราะห์และสวัสดิการต่าง ๆ ของสำนักงาน
  3. อนุมัติแผนการดำเนินงาน แผนการใช้จ่ายเงินและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน
  4. ควบคุมการบริหารงานและการดำเนินการของสำนักงาน และเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
  5. แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  6. วินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองของเลขาธิการ ในส่วนที่เกี่ยวกับการบริหารงานของสำนักงาน
  7. ประเมินผลการดำเนินการของสำนักงาน และการปฏิบัติงานของเลขาธิการ
  8. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่พระราชบัญญัติ หรือกฎหมายอื่นกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการกำกับ หรือตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย

4. คณะกรรมการสรรหา (ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) จำนวน 8 คน (มาตรา 49) ประกอบด้วย บุคคลซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 
  * คณะกรรมการสรรหา 8 คน เลือกกรรมการ 1 คน เป็นประธาน และอีก 1 คน เป็นเลขานุการ

คณะกรรมการสรรหา มีหน้าที่และอำนาจ คัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อคณะกรรมการสรรหาได้คัดเลือกบุคคลครบจำนวนแล้ว ให้แจ้งรายชื่อประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พร้อมหลักฐานแสดงคุณสมบัติและการไม่มีลักษณะต้องห้าม รวมทั้งความยินยอมของบุคคลดังกล่าวต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และให้คณะกรรมการประกาศรายชื่อประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในราชกิจจานุเบกษา (มาตรา 50)

5. คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ (มาตรา 71)
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีหน้าที่แต่งตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญขึ้นคณะหนึ่งหรือหลายคณะก็ได้ ตามความเชี่ยวชาญในแต่ละเรื่องหรือตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเห็นสมควร โดยคณะหนึ่ง ประกอบด้วย
  (1) ประธานกรรมการผู้เชี่ยวชาญ
  (2) - (5) กรรมการผู้เชี่ยวชาญ ไม่น้อยกว่า 4 คน
  * เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แต่งตั้งพนักงานของสำนักงาน เป็นเลขานุการ ตามประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เรื่อง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง และการดำเนินงานอื่นของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ พ.ศ. 2565 (คลิกดาวน์โหลดไฟล์)

คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ มีหน้าที่และอำนาจ (มาตรา 72) ดังนี้
  1. พิจารณาเรื่องร้องเรียนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  2. ตรวจสอบการกระทำใด ๆ ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  3. ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
  4. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้ กำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญหรือตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมอบหมาย

***อ่านเพิ่มเติม กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (คลิกลิงก์)***

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แนวข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 (55 ข้อ)

การส่งเด็กเข้าเรียนตามกฎหมาย

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562

แนวข้อสอบ ระเบียบฯ สารบรรณ (ชุดที่ 3)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (ชุดที่ 1)

แนวข้อสอบ พนักงานราชการ (ข้อ 1 - 10)

แนวข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542