ข้าราชการครูเล่นการพนันประเภทที่ห้ามเด็ดขาด (ไพ่ป๊อกแปด - เก้า) ถูกลงโทษปลดออกจากราชการ เหมาะสมกับความผิดแล้ว
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งลงโทษปลดออกจากราชการ กรณีกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงในเรื่องถุกจับกุมดำเนินคดีอาญาในข้อกล่าวหาว่าร่วมเล่นการพนันไพ่ป๊อกแปด - เก้า อันเป็นการพนันประเภทห้ามขาด ตามบัญชี ก อันดับที่ 11 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 พนันเอาทรัพย์สินกันโดยมิได้มีพระราชกฤษฎีกาอนุญาตให้เล่นได้
โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่าพนักงานอัยการจังหวัดได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัด และศาลพิจารณาแล้วพิพากษาให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง 3 เดือน โดยไม่รอการลงโทษต่อมาศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คดีถึงที่สุด ข้าราชการครูดังกล่าวถูกกักขังตามคำพิพากษาตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2553 เป็นต้นไป
อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ (ที่ทำการแทน ก.ค.ศ.) เห็นว่า กรณีดังกล่าวไม่ถือว่าข้าราชการครู ผู้อุทธรณ์ ต้องโทษให้จำคุกจริง ๆ เนื่องจากผลของคดีถึงที่สุดได้ถุกเปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแล้ว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 มาตรา 23 และมาตรา 24
สำหรับประเด็นการเล่นพนัน พฤติการณ์เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 94 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ประกอบกับหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 7 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2550 เรื่อง ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการลงโทษข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่แจ้งมติ ก.ค.ศ. ให้ปฏิบัติ และมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางการลงโทษข้าราชการเล่นการพนันและเสพสุรา ตามหนังสือกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นว 208/2496 ลงวันที่ 3 กันยายน 2496 โดยในส่วนของการพนันประเภทที่กฎหมายห้ามขาด ถ้าข้าราชการผู้ใดเล่นการพนันควรลงโทษปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ การที่ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งลงโทษปลดออกจากราชการ ตามมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เหมาะสมกับกรณีความผิดแล้ว อุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น เห็นควรยกอุทธรณ์
ที่มา มติ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ (ที่ทำการแทน ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 5/2558 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2558
อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ (ที่ทำการแทน ก.ค.ศ.) เห็นว่า กรณีดังกล่าวไม่ถือว่าข้าราชการครู ผู้อุทธรณ์ ต้องโทษให้จำคุกจริง ๆ เนื่องจากผลของคดีถึงที่สุดได้ถุกเปลี่ยนจากโทษจำคุกเป็นโทษกักขังแล้ว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 มาตรา 23 และมาตรา 24
สำหรับประเด็นการเล่นพนัน พฤติการณ์เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 94 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ประกอบกับหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ว 7 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2550 เรื่อง ซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการลงโทษข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่แจ้งมติ ก.ค.ศ. ให้ปฏิบัติ และมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางการลงโทษข้าราชการเล่นการพนันและเสพสุรา ตามหนังสือกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ นว 208/2496 ลงวันที่ 3 กันยายน 2496 โดยในส่วนของการพนันประเภทที่กฎหมายห้ามขาด ถ้าข้าราชการผู้ใดเล่นการพนันควรลงโทษปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ การที่ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งลงโทษปลดออกจากราชการ ตามมติ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เหมาะสมกับกรณีความผิดแล้ว อุทธรณ์ของผู้อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น เห็นควรยกอุทธรณ์
ที่มา มติ อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ (ที่ทำการแทน ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 5/2558 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2558
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น