คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด : อบต. ละเลยการซ่อมแซมสะพานขาดชำรุด
ตัวอย่างคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดคดีนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากผู้เสียหายได้ขับรถยนต์ไปตามทาง โดยไม่ทราบว่าสะพานข้ามแม่น้ำชำรุดเสียหายใช้สัญจรไปมาไม่ได้ เป็นเหตุให้รถยนต์ตกลงแม่น้ำป่าสักได้รับความเสียหาย
ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า อบต. มีหน้าที่จัดให้มีและบำรุงรักษาทางน้ำและทางบก ตลอดจนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามมาตรา 67 (1) (4) แห่งพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537
เมื่อ อบต. ไม่ได้ปิดทางบริเวณก่อนถึงสะพานที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันมิให้มีการสัญจรผ่านไปถึงสะพานได้ ไม่ว่าจะได้จัดทำป้ายเตือนข้อความว่า "อันตรายสะพานขาด" สักกี่ป้ายก็ตาม ถือได้ว่าเป็นการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ยังไม่พอสมควรแก่เหตุ
อีกทั้งสะพานขาดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2547 จนถึงวันที่รถยนต์เกิดเหตุตกสะพานเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2548 ไม่ปรากฏว่า อบต.ได้ดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ หรือเร่งรัดให้มีการซ่อมแซมสะพานให้ใช้ได้ดีดังเดิม จึงถือว่ากระทำละเมิดต่อผู้เสียหาย โดยการละเลยต่อหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และละเลยต่อหน้าที่ในการซ่อมแซมบำรุงรักษาทาง ตามมาตรา 67 ดังกล่าว ซึ่งมีผลโดยตรงทำให้รถยนต์ของผู้เสียหายประสบอุบัติเหตุจนใช้การไม่ได้ จึงเป็นการกระทำละเมิดอันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ ต้องรับผิดต่อผู้ฟ้องคดีในผลแห่งละเมิด ตามมาตรา 420 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
อย่างไรก็ตาม หากผู้เสียหายมีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายด้วย จะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายมากน้อยเพียงใด ต้องอาศัยพฤติการณืเป็นประมาณ ข้อสำคัญก็คือว่า ความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นเพราะฝ่ายใดเป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพียรไร ตามมาตรา 422 ประกอบมาตรา 223 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เมื่อ อบต.ได้จัดทำป้ายเตือนขนาดใหญ่และสามารถมองเห็นได้ชัดเจนมีข้อความว่า อันตรายสะพานขาด โดยนำไปวางปากทางถนนที่เกิดเหตุ ให้เหลือช่องทางเดินรถเพียงหนึ่งช่องทาง หากผู้เสียหายมีความระมัดระวังตามสมควร ย่อมต้องสังเกตเห็นป้ายดังกล่าว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จึงเกิดจากความประมาทเลินเล่อของผู้เสียหายรวมอยู่ด้วย
โดยเมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ เห็นได้ว่าในวันเกิดเหตุมีป้ายเตือนสะพานขาดติดตั้งห่างจากสะพานที่เกิดเหตุประมาณ 2-3 กิโลเมตร เพียงป้ายเดียว อันแสดงถึงความไม่ใส่ใจที่จะป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้กับประชาชนทั่วไป ความเสียหายมีผลจากการละเลยต่อหน้าที่ของ อบต. มากกว่าความประมาทเลินเล่อของผู้เสียหาย อบต.จึงควรรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในอัตราร้อยละ 80 ของความเสียหายที่เกิดขึ้น
ที่มา คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.33/2554
#นักเรียนกฎหมาย
9 มกราคม 2564
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น