อนุกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา จะสามารถเข้าร่วมประชุมและให้ความเห็นในฐานะอนุกรรมการได้อีกหรือไม่
สำนักงาน ก.ค.ศ. หารือว่า กรณีที่กรรมการในคณะกรรมการกลั่นกรองการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ได้เข้าร่วมประชุมและให้ความเห็นในการประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ในฐานะอนุกรรมการนั้น มีสภาพร้ายแรงที่ทำให้การพิจารณาไม่เป็นกลาง หรือไม่
คณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองพิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า มาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 กำหนดให้การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จะต้องได้รับอนุมัติจาก อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา หรือ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง แล้วแต่กรณี โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษาตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
ก.ค.ศ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์การย้ายดังกล่าว โดยกำหนดให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นประธานกรรมการ และมีกรรมการส่วนหนึ่งมาจากอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ตามที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา มอบหมายที่ไม่มีส่วนได้เสียกับการย้าย จำนวน 3 คน เพื่อทำหน้าที่ในการพิจารณาคำร้องขอย้าย และจัดลำดับความเหมาะสม ก่อนเสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่ง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ต้องนำความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย และความเห็นของคณะกรรมการสถานศึกษามาประกอบการพิจารณาการย้าย โดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ
ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย ของอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด เพื่อทำหน้าที่พิจารณาและกลั่นกรองคำร้องขอย้ายและประเมินศักยภาพของผู้ประสงค์ขอย้ายในเบื้องต้น แล้วเสนอความเห็นให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณา โดยความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย มิได้มีผลผูกพัน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา แต่ประการใด
นอกจากนี้ โดยเหตุที่การไปปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการกลั่นกรอง เป็นการไปปฏิบัติหน้าที่ตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด มิได้เป็นเหตุทำให้ความเป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา สิ้นสุดลง หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่อนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา อีกต่อไป ดังนั้น อนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ที่ได้รับแต่งตั้งให้ไปปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย จึงยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ต่อไปได้
กรณีตามข้อหารือ จึงไม่ใช่เรื่องสภาพร้ายแรงอันอาจทำให้การพิจารณาโยกย้ายผู้บริหารสถานศึกษาไม่เป็นกลาง ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
อนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย จึงสามารถเข้าร่วมประชุมและให้ความเห็นในการประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ในฐานะอนุกรรมการได้
อ้างอิง
ความเห็นคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เรื่องเสร็จที่ 140/2562 (คลิกดาวน์โหลดไฟล์)
#นักเรียนกฎหมาย
3 ธันวาคม 2562
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น