การมีผลย้อนหลังของกฎหมาย
โดย หลักทั่วไป กฎหมายจะไม่มีผลย้อนหลัง แต่มีข้อยกเว้นให้สามารถย้อนหลังได้ถ้าเป็นไปเพื่อความมั่นคงหรือความสงบเรียบร้อยของรัฐ แต่ใน กฎหมายอาญา ถือเป็นหลักสากลที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า กฎหมายอาญาไม่มีผลย้อนหลังเป็นโทษแก่ผู้กระทำความผิด ซึ่งกฎหมายไทยมีบทบัญญัติอยู่ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 บัญญัติว่า "บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้น ต้องเป็นโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย..." ในทางกลับกัน หากกฎหมายที่บัญญัติในภายหลังเป็นคุณกว่ากฎหมายขณะกระทำความผิด ก็สามารถย้อนหลังใช้บังคับให้เป็นคุณกับผู้กระทำผิดได้ เพราะถือว่าในขณะประกาศใช้กฎหมายใหม่ ความร้ายแรงของการกระทำนั้นได้ลดลงแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะลงโทษหนักเหมือนเดิม* ส่วน กฎหมายปกครอง นั้น ศาลปกครองสูงสุดได้นำหลักความไม่มีผลย้อนหลังของนิติกรรมทางปกครองมาใช้ด้วย โดยวินิจฉัยว่า "การบังคับใช้กฎหมายนั้น รัฐจะกระทำการได้ก็ต่อเมื่อได้ประกาศให้บุคคลรับทราบถึงเนื้อหาของกฎหมาย เพื่อที่ผู้อยู่