การปิดเว็บไซต์การพนัน ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
ในเรื่องการปิดกั้นเว็บไซต์การพนัน โดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 นี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11) ได้มีคำวินิจฉัยไว้แล้ว โดยได้วินิจฉัยในประเด็นหลัก 2 ประเด็น คือ
1. การเปิดเว็บไซต์เพื่อให้มีการเล่นพนัน เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
2. ในส่วนที่ 2 เป็นการตีความพ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 20* ที่กำหนดให้การกระทำความผิดตามกฎหมายนี้ เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายนั้นได้
แต่การใช้อำนาจตามมาตรา 20 ต้องเป็นกรณีที่มีการกระทำที่พ.ร.บ.คอมฯ บัญญัติว่าเป็นความผิดเสียก่อน เมื่อปรากฏว่า การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับการพนัน ไม่ถือเป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมฯ นี้ จึงไม่สามารถยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลาย โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 20 ได้
* มาตรา 20 บัญญัติว่า ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ 1 หรือลักษณะ 1/1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้อง พร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้
1. การเปิดเว็บไซต์เพื่อให้มีการเล่นพนัน เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
2. ในส่วนที่ 2 เป็นการตีความพ.ร.บ.คอมฯ มาตรา 20* ที่กำหนดให้การกระทำความผิดตามกฎหมายนี้ เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายนั้นได้
แต่การใช้อำนาจตามมาตรา 20 ต้องเป็นกรณีที่มีการกระทำที่พ.ร.บ.คอมฯ บัญญัติว่าเป็นความผิดเสียก่อน เมื่อปรากฏว่า การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับการพนัน ไม่ถือเป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมฯ นี้ จึงไม่สามารถยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลาย โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 20 ได้
(ความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1024/2556)
* มาตรา 20 บัญญัติว่า ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ 1 หรือลักษณะ 1/1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้อง พร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้
#นักเรียนกฎหมาย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น